วันที่นำเข้าข้อมูล 14 ก.ย. 2562
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565
ด้านพุทธศาสนาและวัฒนธรรม
เหตุผลที่ชัดเจนหนึ่งในการมาเที่ยวศรีลังกาคือด้านพุทธศาสนาเพราะศรีลังกามี สิ่งศักดิ์สิทธิ์หนึ่งที่พิเศษไม่มีที่ไหนในโลกคือพระเขี้ยวแก้ว (พระทนต์ของพระพุทธเจ้า)ซึ่งกล่าวกันว่ามีเพียง 2 แห่งในโลกมนุษย์คือที่ศรีลังกาและที่จีนอีกแห่งหนึ่ง หากเพื่อการไปสักการะพระเขี้ยวแก้วแล้ว ก็เห็นว่าสมควรจะมา เพราะหลังพระพุทธองค์เสด็จปรินิพพานแล้วสิ่งที่เหลือคือพระธรรมกับพระสงฆ์ และวัตถุต่างๆ ที่เราทราบกันว่าคือพระบรมสารีริกธาตุบ้าง รอยพระบาทบ้าง สถานที่พระพุทธเจ้าเคยบำเพ็ยเพียรหรือที่เกี่ยวข้องในฐานะสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่งบ้าง รวมทั้งต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยา ซึ่งชาวพุทธยังคงถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ดังนั้นในบรรดาสิ่งที่หลงเหลืออยู่ ที่เป็นวัตถุและเป็นอนุสรณ์ของพระพุทธเจ้าที่สำคัญก็คือพระเขี้ยวแก้วซึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของพระพุทธเจ้า ศรีลังกาจึงมีคุณค่าสำหรับชาวพุทธฉะนี้
นอกจากนั้นศรีลังกายังมีอีกสิ่งหนึ่งที่น่าตื่นเต้นคือต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นกิ่งที่มาจากต้นพระสรีมหาโพธิ์ต้นแรกที่พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญเพ ยรและตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าฯ เป็นกิ่งที่พระนางสังฆมิตตา ธิดาของพระเจ้าอโศกมหาราชนำมาศรีลังกาในรัชสมัยนั้น ดังนั้นจึงถือเป็นต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่แท้แน่นอนและมีอายุยืนนานที่สุดในโลก
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยาในอินเดียนั้นนับเป็นต้นที่สืบต่อมาเป็นช่วง ที่ 4 จากจุดที่เชื่อกันว่าเป็นจุดที่พระพุทธเจ้าประทับบำเพ็ญเพียร นั่นก็หมายความว่าต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นเดิมนั้นถูกทำลายไปถึง 3 ครั้ง 3 ครา ต้นที่อยู่ที่พุทธคยาในปัจจุบันเซอร์คันนิ่งแฮมได้นำหน่อที่พบในบริเวณที่ เชื่อว่าเป็นจุดบำเพ็ญเพียรจนตรัสรู้และปลูกเอาไว้ซึ่งก็ถือว่าเป็นรุ่นที่ 4 แล้วในจุดเดิม ดังนั้นถ้าว่าถึงต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่เก่าแก่ที่สุดก็คือต้นที่พระนางสังฆมิ ตตาได้นำไปปลูกที่เมืองอนุราธปุระซึ่งก็เป็นต้นที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ มาก เพียงแค่ไปศรีลังกาเพื่อการนี้ ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
เมืองมรดกโลก
นอกจากสองประเด็นที่ว่าแล้ว ศรีลังกายังมีเมืองที่เป็นมรดกโลกหลายแห่ง โดยเฉพาะสามเหลี่ยมวัฒนธรรม ดัมบูลา อนุราธปุระและโปโลนนารุวะ ซึ่งเป็นโบราณสถานคล้ายอยุธยาและสุโขทัยในบ้านเรา ใครที่ชอบประวัติศาสตร์และโบราณคดี ก็ไม่ควรพลาดการไปเยือนศรีลังกาเพื่อการนี้
เมืองแห่งสยามวงศ์
สำหรับชาวพุทธไทยยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่น่าภูมิใจนั่นก็คือความสัมพันธ์ทาง พุทธศาสนาระหว่างสยามกับศรีลังกาในอดีตนั้นลึกซึ้งมาก นั่นคือการพึ่งพากันและกันของทั้งสองประเทศในด้านพุทธศาสนาและเป็นต้นกำเนิด ของพระสงฆ์สายสยามวงศ์ในศรีลังกา การได้ไปศรีลังกาจึงเสมือนไปย้อนรอยประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยา กับแคนดี้ซึ่งยังคงเด่นชัดมาจนถึงทุกวันนี้
ด้านธรรมชาติ
อีกด้านหนึ่งที่ศรีลังกามีจุดแข็งนั่นก็คือด้านธรรมชาติ ความสวยงามของธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์ ด้วยความที่เป็นประเทศเกาะและมีประวัติศาสตร์พุทธศาสนาเจริญเติบโตที่นั่น จึงเป็นเสน่ห์ที่พิเศษกว่าเกาะอื่นโดยทั่วไป ศรีลังกาเป็นเกาะขนาดเล็ก เดินทางจากฝั่งเกาะด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งจะใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง ไปที่ไหนก็จะเห็นแต่ความเขียวชอุ่มของต้นไม้ใบหญ้า ภูเขาและวัด นักท่องเที่ยวไทยหลายคนกล่าวว่าเมื่อมาศรีลังกาแล้วผิดคาดและไม่นึกว่าจะมี ธรรมชาติที่สวยงามแบบนี้ บางท่านบอกว่าเสน่ห์ของศรีลังกาอยู่ที่ธรรมชาติแบบดิบ ซึ่งหาที่ไหนไม่ค่อยได้ นอกจากนั้นหากชอบช้าง ศรีลังกามีป่าสงวนที่มีช้างป่ามากมายอีกทั้งช้างยังเป็นสัตว์ที่นำไปใช้ใน พิธีทางศาสนาคือการแห่งพระบรมสารีริกธาตุที่เรียกว่าพิธีเปราเฮรา จะใช้ช้างนับร้อยร่วมขบวนแห่ ซึ่งหาดูที่ไหนไม่ได้
ด้านสุขภาพบำบัด
ศรีลังกามีประเพณีและวัฒนธรรมในเรื่องของการดูแลสุขภาพที่เรียกว่าอายุรเวท ที่เก่าแก่และมีคุณค่าไม่แพ้ในอินเดีย จึงไม่น่าแปลกที่มีรีสอร์ทที่ทั้งที่พักผ่อนและรักษาสุขภาพพร้อมกันด้วยและ เป็นที่นิยมอย่างมากของนักท่องเที่ยวตะวันตก เป็นอีกเสน่ห์หนึ่งที่น่าสำรวจ รีสอร์ทเหล่านี้มีขนาดเล็กคล้ายโฮมสเตย์ในบ้านเราแต่จะจัดการดูแลเรื่อง สุขภาพของผู้ที่มาพักไม่ว่าจะเป็นอาหาร การนวดและกิจกรรมให้ความรู้เรื่องสมุนไพร ซึ่งเป็นอีกเสน่ห์หนึ่งที่ศรีลังกามี
คำแนะนำจึงมีดังต่อไปนี้
1.หาจุดประสงค์ของการเดินทางก่อนว่าไปเพื่ออะไร จะได้เตรียมตัวได้ถูกต้อง
2.ในศรีลังกามีสถานเอกอัครราชทูตไทยอยู่ที่เมืองหลวง โคลัมโบและดูแลประเทศมัลดิฟส์ด้วย โดยมีกงสุลกิตติมศักดิ์อยู่ที่เกาะมัลดิฟส์ หากมีธุระหรือต้องการขอความช่วยเหลือก็ให้ติดต่อทั้งสองแห่งได้
3.สายการบินที่บินจากกรุงเทพฯ ไปศรีลังกามีหลายสายได้แก่ ศรีลังกาแอร์ไลน์ การบินไทย แอร์เอเชีย คาเธย์แปซิฟิก ใช้เวลาบิน 3 ชม.กว่า
4.คนไทยไปศรีลังกาต้องขอวีซ่าจากสถานทูตศรีลังกาประจำประเทศไทย โดยขอออนไลน์หรือสามารถไปขอที่สนามบินนานาชาติโคลัมโบได้
5.ไม่มีวัดไทยในศรีลังกาเช่นในอินเดีย มีแต่วัดพุทธซึ่งไม่ค่อยมีพระไทยไปจำวัด การจะไปพักที่วัดเช่นในอินเดียจึงไม่มี
6.ภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศที่คนศรีลังกาพูดได้ โดยเฉพาะในเมืองหลวงและเมืองใหญ่ๆ แต่ในชนบทหรือเมืองเล็กๆ อาจหาคนที่พูดภาษาอังกฤษได้ในระดับดีน้อย
7.สภาพบ้านเรือน ถนนหนทางเรียบร้อยและสะอาด ร้านอาหารที่สะอาดมีอยู่ทั่วไป นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการได้อย่างสบายใจ
8.ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคมเป็นช่วงที่มีฝนตก แต่ก็ทำให้อากาศไม่ร้อนมากนัก
9.เทศกาลต่างๆ ในศรีลังกาจะเป็นงานที่มีคนมาร่วมฉลองมากโดยเฉพาะตามวัดต่างๆ เช่นงานวิสาขบูชา งานแห่พระบรมสารีริกธาตุที่วัดพระเขี้ยวแก้วที่แคนดี้ งานในลัษณะนี้ ควรต้องระวังเรื่องพาสปอร์ตหรือกระเป๋าเงินหาย จึงควรระวังตัวและเก็บรักษาให้ดี
..........................................................
เรียบเรียงโดย .............................พลเดช วรฉัตร.....................เมื่อมิถุนายน 2555