05 ตามหาช้างพระราชทาน "ราชา"

05 ตามหาช้างพระราชทาน "ราชา"

วันที่นำเข้าข้อมูล 25 ก.ย. 2555

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 4,788 view

 

 

ตั้งแต่ผมไปใช้ชีวิตที่ศรีลังกา 14 วัน สิ่งที่ตรงใจและโดนใจก็คือเป็นประเทศพุทธ ที่มีความเข้มแข็งสืบต่อพุทธศาสนามาได้อย่างน่าชื่นชม มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวพุทธก็คือพระเขี้ยวแก้ว และต้นโพธิ์อายุเก่าแก่ที่สุดในโลก ที่สำคัญ ประเทศของเรามีส่วนสำคัญในการฟื้นฟูพุทธศาสนาในศรีลังกากล่าวคือสยามวงศ์ ซึ่งมีพระอุบาลีเถระเป็นหัวหน้าพระธรรมทูต แต่สิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะพบก็คือเรื่องช้างไทย เป็นช้างพระราชทานจากประเทศไทยให้ศรีลังกามาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่วัฒนธรรมของสถานทูต (คุณภานุวัฒน์ พรมมานนท์) แจ้งผมเรื่องช้างพระราชทานที่ชื่อ”ราชา” ผมจึงตื่นเต้นและอยากไปเยี่ยมในโอกาสแรก และในที่สุดวันที่ 4 มีนาคม 2555 เป็นวันที่ 14 หลังจากอยู่บนเกาะลังกาของทศกัณฑ์ ผมและคณะก็พากันไปเยี่ยม”ราชา” ที่ว่านี้

วัด Kande Vihara เป็นวัดที่ใหญ่เป็นจุดทอ่งเที่ยวที่มีชื่อเสียง  มีบริเวณกว้างขวาง หน้าวัดมองเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ สไตล์ศรีลังกาคือพระพักตร์งดงามมาก กล่าวกันว่าพระพุทธรูปนี้เป็นพระพุทธรูปนั่งหินอ่อนที่ใหญ่ที่สุดในศรีลังกา ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าวัด ใต้ฐานองค์พระทำเป็นห้องแสดงนิทรรศการภาพปูนฉาบพุทธประวัติ ซึ่งทำได้สวยงามมาก มีภาพช่วงที่พระอุบาลีจากกรุงศรีอยุธยามาศรีลังกาเพื่ออุปสมบทพระศรีลังกาจน กลายเป็นต้นตระกูลสยามวงศ์ด้วย นอกจากนั้นก็มีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมสิ่งของทางพุทธศาสนาเอาไว้มากมายรวม ทั้งภาพการมอบช้างของผู้แทนรัฐบาลไทยดัวย

ผมและคณะเดินลัดเลาะไปด้านหลังวัด หลังอาคารสูง 4 ชั้นซึ่งใช่เป็นสถานที่ฟังธรรมและกุฏิพระสงฆ์ ด้านหลังเป็นป่าละเมาะมีต้นมะพร้าวและต้นตาลมากมาย ผมเห็นช้าง 1 เชือก สวยงามด้วยงาขาวสองข้างกำลังกินซางมะพร้าวอย่างโดดเดี่ยว นี่หรือคือช้างพระราชทานที่ชื่อ”ราชา”  ไม่มีที่อยู่ที่เหมาะสมเลย มีแต่ต้นไม้รายรอบ ซางมะพร้าวที่ทับถมกันจนเป็นกองสูงเนิน พระสงฆ์ศรีลังกาพระลูกวัดได้เชิญให้ผมเข้าไปใกล้ๆ ผมจึงให้อาหารที่เตรียมไปคือกล้วย แตงโม แตงกวา แอบเปิ้ล ปรากกว่าราชาใช้งวงมาหยิบไปทานอย่างชอบใจ

ผมรู้สึกสงสาร”ราชา”อย่างจับใจ นี่หรือช้างที่เป็นของขวัญจากประเทศไทย ที่นำไปใช้ในงานพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธแห่พระบรมสาริริกธาตุ ซึ่งพระศรีลังกาบอกผมว่าใช้ช้างปีละ 6 ครั้ง ผมอดนึกในใจไม่ได้ว่ายามฝนตก พายุกระหน่ำ เจ้าราชาจะอยู่ในสภาพใด ไม่มีหลังคาให้ได้หลบพักพิง ยามเจ็บป่วยหรือตกมันจะทำอย่างไร

ผมนึกเคืองอยู่ในใจ   ช้างสำหรับผมแล้วเป็นสัตว์ที่ประเสริฐ มีคุณค่าต่อมนุษย์มาตั้งแต่ดึกดำบรรพโดยเฉพาะชนชาติสยาม ช้างช่วยทำศึกสงครามกู้บ้านกู้เมืองมาอย่างไม่น้อยหน้าขุนศึกใด ...

วันนั้น “ราชา” เพิ่งหายจากการตกมัน พวกเราพยายามจะทักทายด้วยการส่งเสียงภาษาไทย ราชาไม่ได้ตอบสนองภาษาไทยเท่าใดนัก นอกจากจะถูกใจกับอาหารที่เรานำไปให้  ผมตั้งใจว่าจะต้องหาทางให้”ราชา” ได้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ในฐานะที่”ราชา”เป็นตัวแทนของประเทศไทยใน ต่างแดน

จะต้องหาทางใดทางหนึ่งเพื่อทำตรงนี้ให้ได้ ผมสัญญากับตัวเอง